เปิดตัว iPhone 14 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่ รูบนจอรูปแบบแคปซูลยาว พร้อมสีม่วงใหม่ มีคุณสมบัติ Always-On Display
– มี 2 รุ่น ได้แก่ iPhone 14 Pro หน้าจอ 6.1″ และ iPhone 14 Pro Max หน้าจอ 6.7″
– ดีไซน์รูบนจอ Dynamic Island รูปแบบแคปซูลยาว สามารถทำงานได้หลากหลาย เปลี่ยนรูปแบบตามการใช้งาน เจ๋งมาก
– ความสว่างหน้าจอ 2,000 นิต
– คุณสมบัติ Always-On Display หน้าจอแบบติดตลอด อัตรารีเฟรช 1-120Hz
– ชิปประมวลผล A16 Bionic แบบ 4 nm. จัดการพลังงาน ประสิทธิภาพ และการแสดงผล
– แบตเตอรี่อึดขึ้น ใช้ได้นานมากขึ้น
– กล้องไวด์ ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ชิ้นเลนส์ 7 ชิ้น
– กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP และกล้องเทเลโฟโต้ 12MP เพิ่มการซูม 2 เท่าใหม่
– การถ่ายวิดีโอที่กล้องหลัง มีโหมดใหม่ “Action Mode” สามารถถ่ายวีดีโอได้นิ่งขึ้น ลื่นไหลขึ้น ทำงานร่วมกับระบบกันสั่น
– Cinematic Mode บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps ได้แล้ว
– กล้องหน้า 12MP แบบ True Dept ถ่ายที่แสงน้อยดีขึ้น 2 เท่า
– กล้องหน้ามาพร้อมโหมด Auto Focus
– การเชื่อมต่อ รองรับ 5G และ eSIM (ไม่มีถาดใส่ซิม เฉพาะ US Model)
– ฟีเจอร์ Crash Detection ตรวจจับรถชนหากเกิดอุบัติเหตุ จะโทรหาเบอร์ฉุกเฉินให้
– รองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม SoS via Sattelite ขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียม
– มาพร้อม 4 สี ได้แก่ สีม่วงเข้ม สีดำสเปซแบล๊ค สีทอง และสีเงิน
– ราคาเริ่มต้น iPhone 14 Pro เริ่มต้น 41,900 บาท และ iPhone 14 Pro Max เริ่มต้น 44,900 บาท
เปิดตัว iPhone 14 Pro Max หน้าจอ 6.7″
- ชิป A16 Bionic
- ดีไซน์รูบนจอ มีลูกเล่นที่ตอบโต้ได้ เรียกว่า Dynamic Island
- ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (ใช้งานนอกสถานที่)
- รองรับ Always-on Display
- ฟีเจอร์ Action Mode
- กล้องหลักความละเอียด 48MP เซนเซอร์ใหญ่กว่าเดิม 65%
- ProRAW รองรับความละเอียด 48MP
- ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น 2-3 เท่า
- 4 ความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
- มี 4 สี สีดำสเปซแบล็ก, สีม่วงเข้ม, สีทอง และ สีเงิน
สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. และ เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. เป็นต้นไป