4 สูตรอาหารอีสาน อร่อยนัวร์ เพลินลิ้น น้ำตาลแตก

4 สูตรอาหารอีสาน อร่อยนัวร์ เพลินลิ้น น้ำตาลแตก

ไหนใครที่ชื่นชอบอาหารอีสานมาทางนี้เลยเด้อจ้า วันนี้เรามี 4 สูตรอาหารอีสาน อร่อยนัวร์ เพลินลิ้น น้ำตาลแตก มาแนะนำให้กับคนที่ชื่นชอบอาหารอีสานได้ลองเอาไปทำตาม ความโดดเด่นของอาหารแนวนี้คือรสชาติที่มีความจัดจ้านและเข้มข้น เรียกได้ว่ามีครบทุกรสชาติเลยจริงๆ และที่เป็นจุดเด่นอีกหนึ่งอย่างเลยก็คือ ปลาร้า เชื่อว่าหลายๆ คนต้องชอบทานปลาร้าอย่างแน่นอน ด้วยรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมและมีกลิ่นที่หอมหวน นำไปปรุงรสกับอาหารอะไรก็อร่อย พูดแล้วน้ำลายไหลเลยค่ะ ถ้าใครพร้อมแล้วก็มาดูกันได้เลย ว่าอาหารอีสานนั้นจะแซ่บแค่ไหน

1.         ลาบหมู

มาประเดิมความแซ่บกันเลยนะคะ ด้วยเมนูลาบหมู เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ขาดไม่ได้เลย กับกลิ่นหอมจากข้าวคั่ว คลุกเคล้าด้วยเนื้อหมู โรยด้วยใบสะระแหน่ กินกับข้าวเหนียวหรือจะกินกับข้าวสวยก็แซ่บเช่นเดียวกัน

ส่วนผสมที่ใช้ในการทำลาบหมู

1. เนื้อหมูสับ 200 กรัม

2.หอมแดงซอย 1 หัว

3. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ

4.ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า

5.น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว สำหรับปรุงรส

6.พริกป่น ปริมาณตามชอบ

7.ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำลาบหมู

1. อันดับแรกใส่น้ำลงในหม้อเล็กน้อย นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด ใส่เนื้อหมูสับลงไปรวนจนสุก ยกลงจากเตา

2. จากนั้นใส่หอมแดง ต้นหอมซอย และใบสะระแหน่ลงในหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่น คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เติมข้าวคั่ว จากนั้นเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่ เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ

2. ซุปหน่อไม้

และนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูโปรดปรานของหลายๆ คน นั้นก็คือ ซุปหน่อไม้ ต้องบอกเลยว่านอกจากเมนูนี้จะมีความแซ่บแล้วยังเป็นเมนูที่ใช้ในการลดน้ำหนักได้ด้วยนะคะ เพราะ ซุปหน่อไม้ มีพลังงานที่ต่ำมากๆ แต่ว่าก็ควรทานให้อยู่ในความพอดีนะจ้ะ เพราะหน่อไม้ถ้าทานมากๆ จะไม่มีดีต่อสุขภาพ

ส่วนผสมในการทำซุปหน่อไม้

1.ใบย่านาง 5-10 ใบ

2.หน่อไม้รวก ขูดเป็นเส้นยาว

3.น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

4.เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

5.หอมแดงซอย 3 หัว

6.น้ำมะนาว สำหรับปรุงรส

7.น้ำปลา สำหรับปรุงรส

8.พริกป่น ตามชอบ

9.ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

10.ผักชีฝรั่งซอย

11.ต้นหอมซอย

วิธีทำซุปหน่อไม้

1. อันดับแรกขยี้ใบย่านางกับน้ำจนน้ำเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม กรองเอาเฉพาะน้ำ เทใส่หม้อ เตรียมไว้

2. จากนั้นต้มน้ำจนเดือด ใส่หน่อไม้รวกลงต้มจนน้ำเดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นบีบน้ำออกจากหน่อไม้ให้หมด แล้วใส่ลงในน้ำใบย่านางที่เตรียมไว้ ยกขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เกลือป่น และน้ำปลาร้าลงไป ต้มจนเดือด ยกลงจากเตา เตรียมไว้

3. ต่อมาตักหน่อไม้ใส่อ่างผสม ใส่หอมแดงซอย ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว เคล้าผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่ผักชีฝรั่งซอย และต้นหอมซอย เคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่ เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

3. ตับหวาน

มาต่อความแซ่บกันเลยที่เมนูนี้ นั้นก็คือ ตับหวาน ที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูสุดแซ่บจี้ดจ้าดมากๆ โดยจะนำเอาหมูมาลวกให้เกือบสุก พอให้นิ่ม เพราะว่าถ้าสุกเกินไปตับอาจจะแข็งได้ ถ้าหากใครที่กระเพราะไม่ค่อยแข็งแรงไม่แนะนำให้ทานเท่าไหร่นะคะ

ส่วนผสมของตับหวาน

1.ตับหมู หั่นเป็นชิ้นบาง 200 กรัม

2.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

3.น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

4.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

5.พริกป่น ปริมาณตามความชอบ

6.ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

7.ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ

8. ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ

9.ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ

10.ใบสะระแหน่ ปริมาณตามชอบ

วิธีทำตับหวาน

1. อันดับแรกต้มน้ำจนเดือดจัด นำตับหมูลงลวกจนสุก (ระดับความสุกเลือกตามความชอบ) ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้

2. จากนั้นผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นเทลงในอ่างผสมที่ใส่ตับหมูลวกไว้ เคล้าผสมให้เข้ากัน

3. และสุดท้ายใส่ข้าวคั่ว ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย ใบมะกรูดซอย และใบสะระแหน่ลงเคล้าผสมจนเข้ากันดี ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

4. ตำไทยไข่เค็ม

มาถึงเมนูสุดท้ายกันแล้วเด้อจ้า เมนูนี้บอกเลยว่าเป็นเมนูที่โด่งดังมากและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก สำหรับ ตำไทยไข่เค็ม เป็นเมนูที่มีรสชาติครบรสมากๆ เลยค่ะ เรียกได้ว่าทานเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ยิ่งใส่ปลาร้านัวร์ๆ หละก็แซ่บแน่นอน

ส่วนผสมของส้มตำไข่เค็ม

1.กระเทียมกลีบเล็ก 3-5 กลีบ

2.พริกขี้หนู ปริมาณตามชอบ

3.ถั่วฝักยาว 1 ฝัก

4.กุ้งแห้งอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ

5.มะเขือเทศสีดา 2 ลูก

6.น้ำปลา (ปรุงรส)

7.น้ำตาลปี๊บ (ปรุงรส)

8.น้ำมะขามเปียก (ปรุงรส)

9.น้ำมะนาว (ปรุงรส)

10มะละกอสับ

11.แครอตสับ

12.ไข่เค็มผ่าครึ่ง 1 ฟอง

13.ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

14.ปลาร้า (ปรุงรส)

วิธีทำส้มตำไข่เค็ม

1. อันดับแรกโขลกกระเทียม และพริกขี้หนูเข้าด้วยกันพอหยาบ หักถั่วฝักยาวใส่ลงไป ตามด้วยมะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น ๆ และกุ้งแห้งลงไปโขลกเบา ๆ พอให้เข้ากัน

2. จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และน้ำมะนาว โขลกให้น้ำตาลปี๊บละลาย ชิมรสตามชอบ

3. และสุดท้ายใส่มะละกอ และแครอตลงไปตำผสมเบา ๆ ให้เข้ากัน ใส่ไข่เค็มลงไป ใช้ทัพพีเคล้าผสมเบา ๆ ชิมรสอีกครั้ง ตักใส่จาน เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

อาหารอีสานนั้นต้องขอบอกเลยค่ะ ว่าได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติที่อร่อยเข้มข้น ทำให้ใครหลายๆ คนนั้นต้องติดใจถึงทานซ้ำก็ยังไม่เบื่อ สำหรับใครที่ชื่นชอบในอาหารอีสานแล้วอยากลองทำเอง เราขอแนะนำ 4 สูตรอาหารอีสาน อร่อยนัวร์ เพลินลิ้น น้ำตาลแตก รับรองว่าทำง่ายแถมอร่อยอีกด้วยค่ะ